Greek Yogurt Panna Cotta with Strawberry-Rhubarb Sauce : พานาค๊อตตา กรีกโยเกิร์ต รูบาร์บซอส
Janet Fletcher |Serves 6
ฉันชอบสไตล์ของการเสิร์ฟพานนาคอตต้า ที่อยู่ในแก้วใส ทำให้เห็นน้ำทับทิมเข้มข้นอยู่ด้านล่าง ซึ่งนักชิมทั้งหลายจะชอบใช้ช้อนตักลงไปในชั้นครีม ลึกไปถึงซอสตักขึ้นมาลิ้มรสทีละช้อน แต่ถึงอย่างไรก็ตาม คุณก็ยังสามารถดัดแปลงทำพานนาคอตต้าแบบไม่มีซอสได้อีกด้วย ซึ่งฉันได้อธิบายการทำไว้ให้เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก้ตาม เราก้ควรจะเหลือซอสไว้สักเล็กน้อยสำหรับกินกับโยเกิร์ตในวันต่อไป
วิธีทำที่เขียนไว้ ไม่ได้หมายถึงใช้เจลาตินทั้งห่อ ขอแนะนำให้ใช้ตามสัดส่วนที่เหมาะสมซึ่งคุณสามารถกำหนดความต้องการในการใส่และกำหนดไว้เป็นบรรทัดฐานของตนเองได้ ไม่ควรแข็งหรือนิ่มจนเกินไป คุณสามารถทำซอสและพานนาคอตต้าไว้ล่วงหน้าได้ แต่สำหรับฉันรู้สึกว่า เนื้อพานนาคอตต้าจะหวานฉ่ำ อร่อยที่สุดในวันที่ทำใหม่ๆ
ส่วนประกอบ
วิธีทำ ซอสสตอเบอร์รี่ รูบาร์บ
- รูบาร์บ 1ส่วน 4 ปอนด์ หั่นเป็นชิ้นประมาณครึ่งนิ้ว
- น้ำตาล 1 ส่วน 4 ถ้วยตวง
- น้ำส้มสด 1 ช้อนโต๊ะ
- สตอเบอร์รี่หั่น 6 ออนซ์ หรือประมาณ 1 ถ้วยตวง
วิธีทำ พานนาคอตต้า- นมสด 1 ถ้วยตวง
- ฝักวานิลลาประมาณ 1 นิ้ว แยกตามยาว (ใช้เฉพาะเมล็ดวานิลลาด้านใน)
- โยเกิร์ตสดไม่ผสมอะไร 2 ถ้วยตวง หรือ กรีกโยเกิร์ตแบบธรรมชาติ
- น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ กับ 1ส่วน4 ถ้วยตวง
- เกลือ 1 หยิบมือ
- เจลาตินแบบผง 1 เศษ 1 ส่วน 4 ช้อนชา
ขั้นตอนในการทำวิธีทำซอส- นำรูบาร์บ , น้ำตาล และ น้ำส้มสด ลงในกระทะ นำไปเคี่ยวตั้งระดับไฟปานกลาง กวนจนน้ำตาลละลาย
- เมื่อเคี่ยวจนเข้ากันแล้วให้ใช้ไฟเบา เคี่ยวเบาๆจนรูบาร์บนิ่ม ประมาณ 10 นาที ต้องคอยระวังอย่าให้เดือดจนไหม้
- นำสตอเบอร์รี่ลงผสม คนให้เข้ากัน กวนไปเรื่อยๆจนนิ่ม ประมาณ 2 นาที
- ยกออกจากเตา จากนั้นนำเข้าเครื่องเตรียมอาหาร หรือ เครื่องปั่น
- พักให้เย็นแล้วนำเข้าตู้แช่เย็น
ขั้นตอนในการทำ พานนาคอตต้า- นำนมใส่ในหม้อ
- ใช้มีดคว้านเอาเมล็ดวานิลลาออกจากฝักใส่ลงผสมกับนม
- จากนั้นนำเปลือกวานิลลาที่คว้านเมล็ดออกแล้วใส่ลงไปในนม ตั้งไฟปานกลางจนนมร้อน
- ยกออกจากเตาจากนั้นทิ้งไว้ให้เย็นประมาณ 30 นาที
- นำเปลือกหรือฝักวานิลลาออกจากนม
- เตรียมถ้วยใส่โยเกิร์ต , น้ำตาล และเกลือ ผสมเข้าด้วยกัน
- แบ่งนมอุ่นออกมาใส่ถ้วยเล็กๆ จากนั้นโรยผงเจลาตินลงในนมอุ่นคนแล้วทิ้งให้เจลาตินพองนิ่ม ประมาณ 5 นาที
- นำนมที่พักไว้ผสมกับโยเกิร์ตที่เตรียมไว้ขึ้นตั้งเตา ไฟปานกลางอีกครั้ง ใส่นมที่ผสมเจลาตินลงไปผสม คนให้เจลาตินเข้ากับนมทั้งหมด และนำออกจากเตา พักไว้ให้เย็น 5 นาที
หากต้องการเสิร์ฟในแก้วใส - นำซอสสตอเบอร์รี่ รูบาร์บที่เตรียมไว้ใส่ลงไปในแก้ว 2 ช้อนโต๊ะ ให้อยู่ส่วนก้นแล้ว กะประมาณ 6-8 ออนซ์
- แบ่งโยเกิร์ตใส่ในแก้ว สัดส่วนที่เท่าๆกัน
- คลุมแก้วที่เตรียมไว้เรียบร้อยแล้วด้วยพลาสติก นำไปเข้าตู้เย็น ให้พานนาคอตตาเซตตัวประมาณ 3 ชั่วโมง
- นำออกมาตกแต่งด้วยสตอเบอร์รี่สไลด์
ถ้าคุณต้องการเสิร์ฟลงบนจาน - ทาน้ำมันพืชบางๆรอบถ้วยเซรามิกอบขนมขนาด 6-8 ออนซ์แบ่งโยเกิร์ตที่เตรียมไว้ ใส่ในถ้วยเท่าๆกัน
- เรียงถ้วยเซรามิกลงถาด คลุมด้วยพลาสติกหรือปิดด้วยถาด นำเข้าตู้เย็น ให้โยเกิร์ตเซตตัว ประมาณ 3 ชั่วโมง
- นำออกจากตู้เย็น ใช้ปลายมีดเลาะรอบขอบพานนาคอตตาที่ติดกับถ้วยเซรามิก
- นำจานแบนที่ต้องการเสิร์ฟปิดที่ปากถ้วย จากนั้นใช้มือทั้ง 2 ข้าง ประคองและคว่ำถ้วยลงกับจาน
- เขย่าเล็กน้อยให้โยเกิร์ตหลุดออกมาจากถ้วยลงในจาน
- นำซอสสตอเบอร์รี่ รูบาร์บที่เตรียมไว้ ราดรอบๆเนื้อพานนาคอตตา ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ
- ตกแต่งหน้าพานนาคอตต้า ด้วยผลเบอร์รี่สดและใบมิ้นต์ พร้อมเสิร์ฟ
การสกัดน้ำออกจากโยเกิร์ตในการสกัดน้ำออกจากเนื้อโยเกิร์ต จะช่วยทำให้โยเกิร์ตมีเนื้อที่เน้นขึ้นและมีครีมที่เข้มข้น กลมกล่อม ทั้งยังช่วยยืดอายุการเก็บรักษาโยเกิร์ตให้นานยิ่งขึ้น การลดแลคโตสของโยเกิร์ตทำให้แบคทีเรียในอาหารลดลง หากทำโยเกิร์ตที่บ้าน การนำโยเกิร์ตแช่แข็ง จะเป็นการสกัดน้ำออกจากโยเกิร์ต ดังนั้น เมื่อเปิดฝาโยเกิร์ตแล้ว หากใช้ไม่หมด ควรระบายน้ำในโยเกิร์ต หรือ เทน้ำในโยเกิร์ตทิ้งให้หมด เพื่อรักษาคุณภาพโยเกิร์ตไม่ให้เสียเร็ว
วางตะแกรงหรือกระชอนบนผ้าขาวบางหรือผ้าที่สามารถใช้ซ้ำได้ซึ่งต้องเป็นวัสดุสำหรับอาหาร
วางตะแกรงหรือกระชอนบนถ้วยที่จะสกัดเวย์ ค่อยๆวางโยเกิร์ตลงบนตะแกรงปิดด้วยจานหรือหุ้มปิดเพื่อไม่ให้ดยเกิร์ตถูกกดทับ และนำเข้าตู้เย็น ทำการสกัดโดยใช้วิธีนี้จนกว่าได้รสชาติโยเกิร์ตที่ชอบ หลังผ่าน 1 ชั่วโมง จะสังเกตได้ว่าโยเกิร์ตมีความหนาขึ้น ให้หยุดขั้นตอนนี้
ขูดโยเกิร์ตที่ได้ออกมาในภาชนะที่สะอาด ปิดให้มิดชิดและนำเข้าแช่ตู้เย็น ในส่วนของผ้าที่นำมาสกัด นำไปซักด้วยสบู่และน้ำร้อน ล้างออกให้สะอาด ผึ่งให้แห้ง โดยสามารถใช้ผ้าดังกล่าวซ้ำได้อีก 2 - 3 ครั้ง หรือจนกว่าผ้าจะหลุดลุ่ย แต่หากเป็นผ้ากรองแบบใยโพลี อายุการใช้งานจะนานกว่าและทำความสะอาดง่ายกว่า หากคุณตั้งใจที่จะสกัดโยเกิร์ตโดยไม่มีปัญหา แนะนำให้กลับครีมโยเกิร์ตที่กรองบ่อยๆ จะช่วยยืดอายุโยเกิร์ตได้นานยิ่งขึ้น